HondaNonClub

อ้างจาก: kobon เมื่อ 2016-08-29, 16:01:04
เจอกานครับ

จะบ้าหรา....เจอที่แครายสิ จะไปกานล่ะ มันไกล...

เจอกานครับ

• สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่จองเสื้อคลับไว้ ก็มารับได้เลยนะครับ

แล้วพบกันจ้า

REVIEW :: Laptop Stand - Bamboo

เรื่องของเรื่องมัน มีอยู่ว่า มองหาที่วาง laptop หรือ notebook บางที เวลาใช้งานที่บ้านหรือที่ทำงาน มันก็อยากจะใช้ Keyboard ขนาดปกติ อย่างทำงานกับจอกว้างๆ บางที่ จะตั้ง laptop ให้มันอยู่ในระดับสายตา มันก็ ต้องหาอะไรมารอง จะเก็บ keyboard ว่างก็ไม่เนียน อีก ก็เลย มองหาที่ว่าง laptop มารองดูหน่อย ก็เห็นมีอยู่หลายๆ แบบ และราคาก็ อยู่ในหลายๆ ระดับ ก็เลยลองสั่งแบบที่เป็นไม้ มาลองดูหน่อย โดยรวม ราคาไม่แพงมาก และดูแล้วแข็งแรงทนทานใช้ได้ ไม่โยกเยก และ ถอดประกอบ เครื่องย้ายได้สะดวก และที่ทำคัญต้องไม่ทำให้เครื่องเป็นรอย ดังนั้น เลยเหมาะกับวัสดุที่เป็นไม้ เลยทีเดี่ยว และก็อาจจะถือเป็นอุปกรณ์ตกแต่งโต๊ะทำงานได้ หรือไว้จัดเก็บสายให้ เข้าทีเข้าทางไม่รกได้ หรือถ้าหากว่าไม่อยากจะใช้แล้วก็ ถอดประกอบและจัดเก็บได้สะดวก

เดี่ยวมาแกะกล่องดูของกันดีกว่าครับ สำหรับเจ้าชุดนี้ เป็นแท่นสำหรับ notebook หรือ laptop ขนาด 14-15.3 นิ้ว นะครับ (ที่ลงให้ดู แต่จริงๆ แล้วผม สั่งมาสอง ขนาดคือ สำหรับ 11-13 นิ้ว และ 14-15.3 นิ้วครับ)

กล้องมาไม่เล็กไม่ใหญ่ นะครับ


ในกล่องมาของอยู่เท่านี้เลย


ยังไม่ประกอบก็จะแบนๆ แบบนี้เลยครับ


เดี่ยวมาประกอบ กันดูครับว่า พอไหวหรือป่าว


มาส่องลายเนื้อไม้อีกสักรอบก่อนประกอบ


ประกอบแล้ว จังก้าแบบนี้เลยพร้อมใช้งานประกอบก็ง่ายมากๆ


ส่วนของขาที่ออกแบบไว้แบบนี้ เพื่อให้มีสองชั้น สำหรับวาง Keyboard เก็บไว้ได้ด้วยครับ


วาง Notebook สบายๆ สวยงามตามท้องเรื่อง


จะเก็บ Keyboard ไว้ก็สบาย


สุดท้ายก็ ของ จบด้วยมุมขรึมๆ อีกสักรูปครับ


สรุปโดยรวม คุณภาพกับราคาและชิ้นงาน คุ้มราคามาก ครับ และทำให้จัดการอุปกรณ์บนโต๊ะทำงานได้ ดีขึ้นอีก พร้อมทั้งเสริมความสะดวกเวลามองจอคอมแบบหลายหน้าจอได้ดีด้วยเช่นกัน

รายงานตัว ข้าพเจ้า มาครับผม

REVIEW :: Xiaomi :: MI Bluetooth EarPhone

กลับมาอีกครั้งสำหรับ Review by Yakumo กันนะครับ คราวนี้ เราจะมาเล่ากันถึงเรื่องของหูฟัง Bluetooth ตัวเก่งจากค่าย Xiaomi กันครับ เจ้านี้ เมื่อแกะกล่องออกมา หน้าเรียบหรู ดูดีทีเดี่ยว มีให้เลือกใช้กันสองสี คือสีดำและสีขาว แต่สำหรับการรีวิวครั้งนี้ ผมเลือกสั่งตัวสีดำมาครับ

ในด้านของคุณสมบัติของเจ้านี้ ก็หูฟังบูลทูธไร้สายนั้นเองครับ แต่มีความพิเศษ คือตัวหูฟังได้ออกแบบจนมีความพิเศษในหลายๆ ด้าน ทำให้ได้รับรางวัล Winner of The 2015 IF Product Design Award จากประเทศเยอรมัน กันเลยทีเดี่ยว และให้คุณภาพเสียงที่คมชัด น้ำหนักเบามาก 6.5 กรัม อุปกรณ์ที่ประกอบขึ้นมาใช้ของดีทำให้มันใจได้ว่าไม่ได้ไก่กา ระดับเดี่ยวกับพวกยี่ห้อดังๆ อย่าง Jabra, Jawbone

เวลา Charge ไฟก็ประมาณ 2 ฃั่วโมงก็เต็มแล้วถ้าหากว่าแบตหมดกันไปเลย สามารถสแตนด์บายได้ถึง 180 ชั่วโมง เฉลียก็ประมาณ 1 อาทิตย์ล้ะครับ แล้วถ้าหากคุยต่อเนื่องได้นานสุด 5 ชั่วโมงแบตก็หมดพอดี รองรับ Bluetooth 4.1 สามารถรับสัญญาณได้ไกลถึง 10 เมตร Paring ได้ 2 เครื่อง และมีจุกหูฟังให้เปลี่ยนถึง 3 ขนาดเพื่อให้เหมาะกับหูแต่ละคนด้วย

คุณสมบัติ อื่นๆ ที่น่าสนใจก็คือ เจ้าตัว Bluetooth 4.1 นี้แหละครับ ถ้าหากว่าเครื่องโทรศัพท์ของเรา รองรับด้วยแล้วมันยิ่งเยี่ยมยอด กันเลยทีเดี่ยว มาลองดูก่อน ว่า เริ่มจาก Chip ที่ใช้เป็น CSR8610 Bluetooth Chip มีระบบลดเสียงรบกวนประมวลผลในตัว เรียกว่า CVC หรือ Chip Level Noise เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้พร้อมๆ กัน 2 เครื่อง ใช้พลังงานก็น้อยทำให้อยู่ได้นาน เรียกว่าถ้ามีโทรศัพท์สองเครื่องก็ใช้หูฟังเดี่ยวกันรับสายได้เลย สบายแฮะ

ในด้านของเสียงก็ไม่ขี้เหร่ นะ ให้ซุ่มเสียงทีชัดเจน ในระบบ pure sound ใส่กระชับมียางแถมมาให้เปลี่ยน 3 ขนาดไม่ต้องห่วงว่าจะหลุดง่ายปรับได้ตามขนาดหูเรากันเลย

เล่าให้ฟังเยอะแล้ว มาดูของกันดีกว่า หน้าตาดี จริงไหม

เดียวมาแกะกล่องกันเลย ของเล็กๆ แค่นี้แหละ


เปิดกล่องมาเจอตัวเลยเรียบง่ายดูดีแฮะ


พร้อมลุยกันหรือยังล่ะ


แกะออกมามีของทั้งหมดที่เป็นอุปกรณ์ อยู่เท่านี้แหละ


มียางมาให้เปลี่ยนสำหรับปรับให้ขนานพอดีกับรูหูของเรามาด้วย 3 ขนาด เล็กกลางใหญ่เลือกเลย


เสียบไฟเติมพลังงานสักหน่อย ขึ้นสีแดงแสดงว่ายังไม่เต็ม ถ้าเต็มแล้วจะเป็นสีน้ำเงิน


ด้านหลัวก็เป็นแบบนี้เลย


ส่วนนี้ก็คือสายชาร์ทที่แถมมาด้วย เป็นหัว USB มาตราฐานและ Micro USB


ช่องนี้ นอกจาก Charge ไฟแล้วมันก็เป็นส่วนที่ Mic อาศัยอยู่ด้วย


ไฟแสดงสถานะการทำงาน


พระเอก ปุ่มเดี่ยวทำมันหมดทุกอย่างเลย เปิดปิด รับวาง



โดยสรุปถือว่าคุ้มค่ามาเมื่อเทียบกับคุณสมบัติ กับราคาที่ไม่ถึง 1 พันบาทแล้วทำได้ถึงขนาดนี้ จากที่ทดสอบใช้งานเบื้องต้น เสียงชัดเจนดีมากและคนที่เราคุยด้วยก็ได้ยินเสียงชัดเจนกัน เอาไว้ฟังเพลงก็ยังไหว คุ้มตังค์ดีครับ

REVIEW :: Nashin :: Caliper 4 Pot Monobloc

กลับมากันอีกครั้งสำหรับการรีวิวของ Review by Yakumo นะครับ คราวนี้ นำระบบห้ามล้อหรือระบบเบรค มาให้ลองดูกันครับ ออกตัวก่อนผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับทางร้านค้าและเจ้าของผลิตภัณท์ ผมเป็นเพียงผู้ใช้งานและสังเกตุนำข้อมูลมานำเสนอในมุมมองของผมเท่านั้น ดังนั้นอาจจะมีข้อมูลผิดหรือถูกอย่างไงก็ต้อง ขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ด้วยครับ

เดี่ยวมาดูกันก่อนเลย ว่าเป็นไง กันบ้างสำหรับการ รีวิว ครั้งนี้ คราวนี้ ผมจะนำเสนอชุดคาลิปเปอร์ จานเบรค สายน้ำมันเบรค และตัวขายึดสำหรับคาลิปเปอร์ นะครับ

ของชุดนี้เป็นของ ยี่ห้อ Nashin ครับเป็นบริษัทที่มีโรงงานอยู่ที่ประเทศไต้หวัน และได้เป็น Oem ให้กับผู้ผลิตเบรคในหลายๆ ยี่ห้อ

ทำไมถึงเลือกตัวนี้ เริ่มจากที่ว่าผมต้องการ ปรับปรุงระบบเบรคให้ดีขึ้น และก็อยากให้มันสวยขึ้นด้วย แล้วที่สำคัญไม่อยากวุ่นวายกับการดัดแปลงต่างๆ เพียงต้องการให้มันออกแบบมาตรงรุ่นแล้วก็สามารถที่ถอดของเก่าออกเอาของใหม่ใส่ แล้วจบเลย จะทำเดิมๆ หรือว่า วันข้างหน้าจะย้ายไป ใส่คันอื่นก็ทำได้ไม่อยาก ผมจึงมองหาระบบเบรคที่ราคาเหมาะสมกับความต้องการ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้ยี้ห้อดังและเป็นยี่ห้อใหม่ ที่เข้ามาในตลอดแถมยังไม่ใช้ยี่ห้อที่เป็นของญี่ปุ่นหรือทางยุโรปด้วย แต่ทำไมถึงเลือกใช้ เหตุผลส่วนหนึ่ง ผมพิจารณา จากคุณสมบัติของตัวอุปกรณ์ และการออกแบบสำหรับการใช้งาน ผมลองเข้าไปหาข้อมูลอยู่สักพักก่อนตัดสินใจ จึงเห็นว่า เจ้านี้ก็ไม่ได้ธรรมดา ออกแบบเพื่อใช้สำหรับรถในสนามแข่งเช่นกัน และ วัสดุที่ใช้ผลิตนั้นเป็นเกรตสูงเช่นเดี่ยวกับแบนค์ดังๆ

ตัวคาลิปเปอร์สร้างจาก อลูมิเนียม A356 ซึ่งเป็น alloy ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในด้านต่างๆ คือ strength, ductility, hardness, fatigue strength, pressure tightness, fluidity, and machinability จากการออกแบบ เป็น Monobloc ก็ขึ้นการขึ้นรูปเป็นชิ้นเดี่ยว จึงให้ความแข็งแรงที่สูงและน้ำหนักเบา

ในด้านของการทำสีนั้นใช้ Nanotech ที่ทำให้การทำสีนั้นสวยงามและทนทานต่อความร้อนสูง สำหรับรุ่นที่ผมเลือกใช้ครั้งนี้เป็นรุ่น Nashin N3 ที่สามารถใช้กับจานได้ทั้งแบบชิ้นเดี่ยว หรือจะเป็นแบบสองชิ้นก็ได้ ขนาดจานเส้นผ่านสูงกลาง 330mm และ 345mm ชึ้นอยู่กับความต้องการ ความหนาของจานอยู่ที่ 28mm และเป็นคาลิปเปอร์แบบ 4Pot คือมีลูกสูบกระจายแรงกดผ้าเบรค 4 ลูกขนาด 36mm และ 40mm อย่างละ 2 ลูก ซึ่งลูกสูบก็เป็นลูกสูบไทเทเนียม เบา ทนทาน และ ไม่เป็นสนิม

สำหรับจานเบรค ในชุดนี้ ผมใช้ขนาด 330mm หนา 28mm ตัววัสดุที่ใช้สร้างจานนั้นเป็น เหล็ก FC-28 ที่มีความเสถียร์ต่อการแปลงพันตามอุณหภูมิที่สูง ทำได้ลดการเกิดปัญหาจานคตได้ นอกจากนั้นภายในโครงสร้างของจานมีการออกแบบการระบายความร้อนไว้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า จานเบรคจะมีเสภียรภาพที่สูงในการใช้งานที่หนัก แต่ผมก็ยังอยากจะลองอะไรเพิ่มเลยได้ สั่งจานเบรคแบบสองชิ้นขนาด 345mm หนา 28mm มาด้วย ซึ่งข้อดีของมันก็คือนำหนักที่จะเบาขึ้นและ ความสวยงามแบบดิบๆ โดย Hub ของจานเบรคจะสร้างจาก อลูมิเนียม forged 6066 โดยร่วมผมจะได้จานเบรคที่น้ำหนักเบาขึ้นและประสิทธิภาพดีขึ้นอีก แต่ก็รอของอยู่ ล่ะครับ

สำหรับผ้าเบรคที่มาใช้ชุดจะเป็นผ้าเบรค แบบ composite ที่ประกอบไปด้วย Ceramic, Allow, และ Fiber ซึ่งทนอุณหภูมิได้สูงถึง 600 องศา C นอกจานนั้นในส่วนของสายเบรค ก็มีมาให้พร้อมเป็นสายเบรคอลูมิเนียมถัก ที่ทนต่อแรงดันได้ถึง 3000 PSI และแม้กระทั้งรายละเอียด เล็กๆ น้อยๆ อย่างน๊อตและ Bracket ที่จับคาลิปเปอร์ ก็เป็นอุปกรณ์ที่สร้างจากวัสดุคุณภาพสูงอีกเช้นกัน

เล่าให้ฟังมาเยอะเลย อาจจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างไม่เป็นไรครับ เดี่ยวดูภาพประกอบตอนติดตั้งกันดีกว่า แล้วเดี่ยวมาลองอ่านบทสรุปหลังติดตั้งและใช้งานกันอีก สักนิดครับ ตอนท้ายของรีิวิว

ก่อนอื่นเลยผมใช้จานขยายขนาด 350mm จากรูปที่เห็นด้านล่างเป็นคาลิปเปอร์เดิมๆ ติดรถที่เป็นแบบลูกสูบเดี่ยวนะครับ


เอาล่ะขึ้นแทนจะถอดแล้วนะ


แกะกล่องคาลิปเปอร์กันเลยดีกว่า




ออกมาแล้ว ตัวคาลิปเปอร์ประกอบผ้าเบรคมาแล้วเรียบร้อย ก็ที่เหลือก็คือใส่เข้าทีเลย


ชุดสายเบรคถักกับ Bracket สำหรับจับคาลิปเปอร์ ก็มีมาพร้อมเลย



คาลิปเปอร์เบาๆ ถือมือเดี่ยวก็ไหวล่ะ ลดน้ำหนักลงไปได้อีก


อันดับแรกหลังจากถอดของเดิมออกก็ ใส่จานเบรคเข้าที่ก่อนเลย จานเบรคออกแบบ แปลกไหมล่ะ มีช่องลมอยู้ด้านนี้ ปกติจะเห็นว่าอยู่แต่ด้านหลัง ก็ดี แปลกตาดี


คาลิปเปอร์ น็อต และ ฺBracket เตรียมไว้พร้อมประกอบลงในแล้ว


จานเบรคกับสายน้ำมันเบรคแบบอลูมิเนียมถัก พร้อมติดตั้งอีกข้างล่ะ


เรียบร้อยไปหนึ่งข้างแล้ว คาลิปเปอร์จานเบรค เข้าตำแหน่งประจำการเป็นที่เรียบร้อย


ของดูมุมอื่นๆ เพิ่มอีกหน่อย ก็สวยดุดีนะ




เอาล่ะ ลงมือต่ออีกข้างล่ะ


ถ่ายโชว์เป็น display หน่อยสิเรา ยิ้มๆๆ


ลงมือต่อไปอีกข้างเร็วเข้า


เรียบร้อย ไหนขอดูเต็มๆ หน่อยสิ ผ้าเบรคเขียวเชียว




ติดตั้งสายน้ำมันเบรคเรียบร้อยแล้วก็ตรวจสอบความเรียบร้อยทั้งสองข้างแล้วก็ ประกอบล้อเข้าตำแหน่งล่ะ


ล้อมันโตไปหน่อย เลยมีช่องห่างเจอไป นิดแต่ก็พอไหวน่า เดี่ยวไปหาจาน 345 ใส่อีกที


มาเล่งหน่อย พอได้ไหม น่ะ ก็คงพอไหวล่ะ


เจ้านี้เป็นจานแบบ 2 ฃิ้นที่สั่งไปใหม่ รออยู่ยังไม่มา ถ้ามาแล้วเดี่ยวเจอกันใหม่


เข้านี้คือ Nashin N3 สีเทาที่ผมเลือกใส่ไปใน Accord G8



เอาล่ะครับ สรุปหลังจากที่ติดตั้งและใช้งานมา ผมวิ่งลุยฝนและทางแห้ง การเบรคทำได้อย่างมันใจ แต่ที่สำคัญไม่มีเสียงให้รำคาญใจ เบื้องต้นพอใจมากครับ แต่ติดอยู่นิดเดี่ยวคงที่จานเล็กไปหน่อย แต่สั่งจานใหม่ไปแล้วน่าจะ สวยกว่าเดิมแและเบรคได้มั่นใจกว่าเดิมอีก รอติดตามตอนต่อไป ครับ

มีใครอยู่ไหมครับ

• สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่จองเสื้อคลับไว้ ก็มารับได้เลยนะครับ

แล้วพบกันจ้า

• สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่จองเสื้อคลับไว้ ก็มารับได้เลยนะครับ

แล้วพบกันจ้า